หลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินตลาดหุ้นโลกปี 2569 ยังมีแนวโน้มเติบโต แม้ระยะสั้นจะปรับตัวลงราว 5-10% มองเป็นการปรับฐานเพื่อเตรียมขึ้นต่อ แนะนำหาจังหวะเพิ่มน้ำหนักลงทุนใน “กองทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี” รับเมกะเทรนด์ AI ด้วยการจัดพอร์ตแบบ Core-Satellite ผ่าน 5 ธีมเด่น พร้อมแนะวางแผนลดหย่อนภาษีช่วปลาย 2568 ด้วยกองทุน RMF และ Thai ESG เพื่อเพิ่มโอกาสการออมระยะยาวและเสริมความมั่นคงทางการเงินในอนาคต
วันที่ 19 ธันวาคม 2568 นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นโลกในปี 2569 แม้ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดมีการปรับฐานลงราว 5-10% จากแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีระหว่างเดือนพฤษภาคม-ตุลาคม 2568 รวมถึงแรงกดดันด้านมูลค่าหุ้นที่สูง และปัจจัยมหภาคระยะสั้น อย่างไรก็ดี มองว่าการปรับตัวครั้งนี้เป็นเพียง Healthy Correction หรือการปรับฐานก่อนเข้าสู่รอบการฟื้นตัวครั้งใหม่ เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่ง ทั้งแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง, เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังไม่เสี่ยงถดถอย และกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโตได้ดี
โดยบริษัทมองว่าเป็นจังหวะเหมาะสมในการเพิ่มน้ำหนักลงทุนใน “กองทุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี” ซึ่งยังได้รับแรงหนุนจากกระแสการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยทีม Wealth Research แนะนำกลยุทธ์จัดพอร์ตลงทุนแบบ “Core-Satellite” เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งเป้าหมายระยะยาวและการแสวงหาโอกาสระยะสั้น ผ่าน 5ธีมการลงทุนที่มีศักยภาพเติบโตในเมกะเทรนด์ปี 2569 ได้แก่ AI Value Chain, Defense Tech, Quantum Computing, Health Tech และ Nuclear Energy โดยแบ่งสัดส่วนดังนี้
นายชัยพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงปลายปี 2568 ผู้มีเงินได้สามารถใช้โอกาสจากภาวะตลาดผันผวน เพื่อวางแผนลดหย่อนภาษี พร้อมสร้างความมั่นคงทางการเงินระยะยาว ผ่านผลิตภัณฑ์ลงทุนเพื่อการออม 2 ประเภท ได้แก่
Thai ESG จะถูกนับแยกออกจากการลงทุนในกองทุน RMF และกลุ่มกองทุนเพื่อเกษียณอื่นๆ แต่ต้องไม่เกินวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดของ Thai ESG ทั้งนี้ กลยุทธ์วางแผนภาษีให้คุ้มค่า เราแนะนำลงทุนใน RMF เพื่อเปิดโอกาสลงทุนต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี AI ที่ยังมีโอกาสเติบโตสูง ส่วน Thai ESG ควรใช้เป็นการลงทุนในสินทรัพย์การลงทุนในไทย เพื่อทำให้พอร์ตกองทุนภาษีโดยรวมมีความสมดุลมากขึ้น ตัวอย่างผู้มีรายได้เและโบนัสปีละประมาณ 1,500,000 บาท โดยมีการจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 75,000 บาท จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม 9,000 บาท และมีการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีทั้ง RMF และ ThaiESG เต็มสิทธิ จะทำให้เสียภาษีในปีนั้นเพียง 32,150 บาท จากเดิมที่ไม่ลงทุนจะเสียภาษี 179,000 บาท ช่วยประหยัดภาษีได้ถึง 146,850 บาท” นายชัยพร กล่าว
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจลงทุนกองทุนกับหลักทรัพย์บัวหลวง สามารถเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้ผ่านแอปพลิเคชัน
Wealth Connex โดยสามารถซื้อขายได้กว่า 18 บลจ.ชั้นนำ ครอบคลุมสินทรัพย์ทั่วโลกทั้งในและต่างประเทศ และมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมืออาชีพให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด พร้อมรับ BLS Top Funds รายงานอัปเดตสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ และคัดเลือกกองทุนตัวท็อปจากทุกประเภทสินทรัพย์ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชัน Wealth Connex
#หลักทรัพย์บัวหลวง #ตลาดหุ้นโลก #กองทุนหุ้นเทคโนโลยี #เมกะเทรนด์AI #WealthConnex
